วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา Telecommunication for Education

1.โทรคมนาคม หมายถึงอะไร และมีประโยชน์ทางการศึกษาอะไรบ้าง

ตอบ  การส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอักษร ภาพ เสียงโดยใช้กระบวนการที่หลากหลาย  เช่น  



คลื่นแม่หล็กไฟฟ้า  



เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง  


ดาวเทียม  

ไปยังผู้รับสารที่ต้องการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษาในรูปแบบต่างๆ
ประโยชน์ทางการศึกษามีดังนี้

     1) การสื่อสารผ่านเพื่อการศึกษา
     2) การสื่อสารผ่านเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง



**** **** ****


2. การใช้ Facebook เป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาหรือไม่ ถ้าเป็นจงยกตัวอย่างประโยชน์ของ Facebook

ตอบ
       การใช้  Facebook  เป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาเพื่อการศึกษา ตัวอย่างเช่น การตั้งกลุ่มเพื่อปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา โดยอาจารย์บางท่านได้มีการสั่งงานทาง Facebook 
ซึ่งทั้งนี้สามารถทราบได้อย่างแน่นอนว่า Facebook นั้นเป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาอย่างแน่นอน



**** **** ****


3. นิสิตสามารถรับชมโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ด้วยวิธีใดบ้าง

ตอบ
         1)  ระบบ DSTV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียม ในย่านความถี่ KU-Band ที่เป็นระบบเดียวกับ True Vision ซึ่งสามารถซื้อ ชุดรับสัญญาณดาวเทียม กับตัวแทนจำหน่ายของ True Vision ได้ทั่วไป โดยไม่เสียค่าบริการรายเดือน  โดยมีราคาประมาณชุดละ 12000 บาท หรือหากมีเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ที่สามารถรับย่าน KU-Band ได้ ก็สามารถรับชมได้เพราะระบบออกอากาศของสถานี มิได้มีการเข้ารหัสไว้จึงไม่ต้องใช้ Smart Card ในการรับชมรายการ


         2) ระบบ CATV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิ้ล ซึ่งสามารถรับชมได้ ในเขตกรุงเทพมหานคร และ จังหวัดปริมณฑล แต่สามารถรับชมรายการได้เพียง 7 ช่อง และต้องเสียค่าบริการรายเดือนกับบริษัทเคเบิ้ลทีวีที่ให้บริการ



**** **** ****


4. ประโยชน์ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมมีอะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ   1) เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆที่ขาดแคลนครูผู้สอน
           2) สะดวกต่อการติดตั้ง และเป็นการไม่สิ่้งเปลืองทรัพยากร
           3) เป็นการจัดการศึกษาเพื่อให้ข่าวสาร ข้อมูล ความรู้
              และทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ
              ประชาชนรวมถึงสภาพสังคม

           4) เพื่อให้ทุกคนได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน



**** **** ****


5. นิสิตรับชมรายการจากและจงอธิปรายถึงประวัติความเป็นมาของสถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมไทยคม

ตอบ สัญญาณถ่ายทอดสดการเรียนการสอนจากโรงเรียนวังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


ผ่านสถานีส่งสัญญาณดาวเทียม และดาวเทียมไทยคมไปทั่วประเทศ  เกิดขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวด้านการศึกษาทางไกล เพื่อให้การศึกษามีคุณภาพทัดเทียมกันทั้งประเทศ และเพื่อให้ทุกคนได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน  สถานีวิทยุโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมเริ่มส่งสัญญาณแพร่ภาพเป็นครั้งแรก เมื่อ 5 ธันวาคม 2538 โดยก่อตั้งเป็นมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
มีการบริหารให้ออกอากาศเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ เนื้อหารายการนอกจากเป็นการถ่ายทอดหลักสูตรวิชาชีพ หลักสูตรอุดมศึกษา รวมทั้งความรู้จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยประโยชน์แก่ผู้ที่อยู่ในภูมิภาคห่างไกลกว่า 3000 แห่ง และพระราชทาน นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว พม่า และ เวียดนาม ที่ได้รับพระราชทานอุปกรณ์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม  


        โดยในวันที่ 6 ตุลาคม 2544 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงสอนเรื่องดิน ในรายการศึกษาทัศน์ และในวันที่ 30 ตุลาคม 2544 ทรงสอน เรื่อง ฝนหลวง สถานีโทรทัศน์แห่งนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีการทางศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ตามการศึกษาตลอดชีวิต




**** **** ****


6. ให้นิสิต Post รูปภาพเกี่ยวกับโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาลงใน Weblog

ตอบ



วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดสื่อมวลชนเพื่อการศึกษา

1. สื่อสารมวลชนเพื่อการศึกษามีกี่ประเภทอะไรบ้าง?

ตอบ  มีทั้งหมด  5  ประเภท   ดังนี้

          1) สิ่งพิมพ์



          2) วิทยุ



          3) โทรทัศน์และวีดิทัศน์



          4) ภาพยนต์


          5) สื่อผสม


**** **** ****


2. คุณค่าของสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย?

ตอบ   1) การเพิ่มของประชากร ในระบบโรงเรียน  การสื่อสารมวลชนนั้นสามารถแพร่กระจายข่าวสารอย่างรวดเร็ว สู่คนจำนวนมาก

           2) เปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย โดยเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต

           3) ในบางสถานศึกษาอาจจะขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านในด้านหนึ่ง ดังนั้นสื่อสารมวลชนเปิดโอกาสให้นำรายการสอนจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางไปสู่ห้องเรียนตลอดจนถึงชุนนุมต่างๆ

           4) ช่วยปัญหาการขาดแคลนวัสดุทางการศึกษา

           5) การศึกษาเมื่อถูกจัดอยู่ในรูปแบบของสื่อสารมวลชนจะทำให้กระจายได้ดียิ่งขึ้น

           6) ข่าวสารใหม่จะถูก update อย่างรวดเร็วโดยสื่อสารมวลชน ดังนั้นทำให้เราสามารถรู้ทันข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

           7) ความก้าวหน้าของสื่อสารมวลชนสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยมีการสอดแทรกเนื้อหา สาระที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชม และมีการนำเทคนิคการนำเสนอใหม่ๆมานำเสนอตลอดเวลา


****  **** ****

3. ให้นิสิตยกตัวอย่างสื่อสารมวลชนเพื่อการศึกษามา 1 รายการ พร้อมอธิบายประโยชน์ของรายการนั้นๆ?
ตอบ  ดิฉันขอยกตัวอย่างรายการ กบนอกกะลา สาเหตุที่เลือกเพราะรายการนี้จะ พาเราไปดูการกำเนิดของสิ่งต่างๆ รอบๆตัวเรา สิ่งที่เราไม่เคยรู้ว่าต้นกำเนิดมาจากไหน เราก็จะได้รู้ถ้าเราดูรายการนี้ และรายการนี้มีประโยชน์กับทั้งทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าเป็นบุคคลใด ก็สามารถรับชมรายการนี้ได้โดยรายนี้จะออกอากาศ ทุกๆวันศุกร์ เวลา 20.30 - 21.30 น. ทางช่อง Modern Nine 


( 2 พิธีกรผู้ดำเนินรายการ กบนอกกะลา )

**** **** ****


วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เขียนเรื่องราวพร้อมรูปภาพของตนสาระที่ได้เรียนรู้ในวันที่ไปทัศนศึกษา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

ดอกไม้ทะเล


มีลำตัวอ่อนนุ่ม มีหนวดเรียงรายอยู่รอบปากเป็นจำนวนมาก
 ด้านล่างเป็๋นฐานยึดเกาะอยู่กับก้อนหิน
ก้อนปะการัง หรือ ฝั่งตัวลงในพื้นทะเลบริเวณดินเลนหรือ
ดินทราย โดยปกติมันไม่ชอบเคลื่อนที่
แต่บาครั้งมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างช้าๆ


วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การใช้เทคโนโลยีการศึกษาในสถานศึกษา อบรมการใช้เทคโนโลยีการศึกษาที่สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา

            ดิฉันและเพื่อนๆในสาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ได้มีโอกาสฟังบรรยายเกี่ยวเทคโนโลยีทางการศึกษา ณ หอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน จ.ชลบุรี โดย วิทยากรได้บรรยายถึงวิธีการสืบค้นหาหนังสือ จากระบบฐานข้อมูลต่างๆ เช่น Web OPAC , ฐานEBSCO , TDC ซึ่งเป็นความรู้อย่างมาก

(สาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณะศึกษาศาสตร์)



(ภาพบรรยากาศขณะวิทยากรกำลังนำเสนอวิธีค้นวัสดุสารสนเทศ Web OPAC)



(ภาพขณะนิสิตกำลังเรียนรู้การสืิบค้นฐานข้อมูล EBSCO)



(หลังจากจบการบรรยาย ตัวแทนนิสิตสาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณะศึกษาศาสตร์ ได้นำของที่ระลึกแก่วิทยากร ที่สละเวลาบรรยายเกี่ยวกับเทคโนโลยีการทางศึกษาของสำนักหอสมุด)


 *** *** *** *** *** ***

               สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา มีทั้งหมด 7 ชั้นโดยแต่ละชั้นจะมีการให้บริการสารสนเทศในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ โสตทัศน์ ตลอดจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกสาขาวิชา โดยมีบริการต่างๆดังนี้


-- ชั้น 1 --


               - มีบริการ โต๊ะนั่งทำงาน
               - Free Wifi
               - ศูนย์อาหาร

-- ชั้น 2 --



              - สมัครสมาชิกห้องสมุด , ยืม , คืนหนังสือ / วิทยานิพนธ์
              - ยืมระหว่างห้องสมุด , ฝึกอบรมการสืบค้นฐานข้อมูล OPAC
              และฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ , ตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า ,  นำชมห้องสมุด ,  
              บริการสืบค้นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
              - หนังสือต่างประเทศ ,  Books Show Room


-- ชั้น 3 --


           - หนังสือภาษาไทยปี พ.ศ. 2541-ปัจจุบัน
           - นวนิยาย เรื่องสั้น หนังสือเด็ก
           - หนังสือ SET Corner , มุมคุณธรรม , มุมต่อต้านการค้ามนุษย์ 
           - ถ่ายเอกสาร


-- ชั้น 4 --


             - วารสาร , หนังสือพิมพ์ , จดหมายข่าว
             - สืบค้นวารสารอิเล็กทรอนิกส์
             - ถ่ายเอกสาร

-- ชั้น 5 --


            - วิทยานิพนธ์ , หนังสืออ้างอิง , จุลสาร , กฤตภาค , หนังสือหายาก สารสนเทศภาคตะวันออก
            - ห้องศึกษากลุ่ม , ห้องศึกษาเดี่ยว


-- ชั้น 6 --


            - ยืม คืน สื่อ โสตทัศน์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
            - ชุดศึกษาเทปวิดิทัศน์ , VCD , CD-ROM , เทปเสียงรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม / UBC
            - Internet , Internet Center
            - Mini Home Theater 


- ชั้น 7 - 

            - หนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
            - หนังสือภาษาไทย พิมพ์ก่อน พ.ศ.2526
            - หนังสือภาษาไทย พิมพ์ก่อน พ.ศ.2526 - 2540
            - หนังสือภาษาต่างประเทศก่อน ค.ศ. 1970
            - หนังสือราชกิจจานุเบกษา

**********************








วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การบ้านวันที่ 18-24 มิถุนายน 2555


1.ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ  ประกอบด้วย ๔ ส่วนคือ
๑. สื่อโสตทัศน์
๒. สื่อมวลชน
๓. สื่ออิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม รวมคอมพิวเตอร์
๔. สื่อที่เป็นแหล่งวิทยาการ เช่น หอสมุด ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ



2.ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงหาภาพมาประกอบ
ตอบ แบ่งได้ 3 ประเภท
1.สื่อประเภทใช้เครื่องฉาย (projected aids)

2. สื่อประเภทไม่ใช้เครื่องฉาย (nonprojected aids) เช่น รูปภาพ แผนภูมิ แผนสถิติ ของจริง ของจาลอง เป็นต้น

3. สื่อประเภทเครื่องเสียง (Audio aids) เช่น  เทปเสียง แผ่นซีดี วิทยุเป็นต้น



3.ประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามประสบการณ์ เป็นของนักการศึกษาท่านใด และมีการจัดประสบการณ์จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมโดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ใดไปประสบการณ์ใดจงอธิบาย
ตอบ เอดการ์ เดล (Edgar Dale) ได้ จัดแบ่งสื่อการสอนเพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างโสต ทัศนูปกรณ์ และแสดงเป็นขั้นตอนของประสบการณ์การเรียนรู้และการใช้สื่อ นำมาสร้างเป็น “กรวยประสบการณ์” (Cone of Experience ) แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้  
1. ประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นขั้นที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพราะผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากของจริง สถานที่จริง
2. ประสบการณ์รอง ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงกับความจริงที่สุด
3.ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมติ หรือการแสดงละคร
4. การสาธิต เป็นการแสดงหรือกระทำประกอบคำอธิบาย
5. การศึกษานอกสถานที่ ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ภายนอกที่เรียน
6. นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศ
7.โทรทัศน์ ใช่ส่งได้ทั้งระบบวงจรเปิดหรือวงจรปิด การสอนจะเป็นการสอนสดหรือบันทึกลงบนวีดิทัศน์
8. ภาพยนตร์ เป็นภาพที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ลงบนฟิล์ม
9. การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง เป็นการฟังหรือดูภาพโดยไม่ต้องอ่าน
10. ทัศนสัญลักษณ์ เช่น แผนภูมิ แผนที่ แผนสถิติ 
11. วจนสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นขั้นนามธรรมมากที่สุด ได้แก่ ตัวหนังสือ เสียงพูด



4.การสื่อสารหมายถึงอะไร
ตอบ เป็นกระบวนการถ่ายทอด/แลกเปลี่ยนเรื่องราว  ความต้องการ  ความคิดเห็น ความรู้สึก ระหว่างผู้ส่ง-ผู้รับ  ผ่านสื่อ  ช่องทางระบบเพื่อการติดต่อ  รับส่งข้อมูลซึ่งกันและกัน



5.สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบใด จงอธิบาย
ตอบ  การสื่อสารระยะไกลแบบการสื่อสารสองทางเช่นการเรียนในห้องเรียนเสมือนที่ผู้เรียนในห้องเรียนหนึ่งสามารถเรียนร่วมกับผู้เรียนในสถาบันการศึกษาแห่งอื่นที่มีผู้สอนสดและส่งการสอนนั้นมาเพื่อเรียนร่วมกันได้การสื่อสารในการศึกษาทางไกล การศึกษาทาง”กลเป็นการเรียนการสอนและผู้เรียนถึงแม้จะไม่อยู่ในที่เดียวกันแต่สามารถสื่อสารกันได้ด้วยระบบโทรคมนาคมซึ่งเป็นการสื่อสารระยะไกล การเรียนการสอนรูปแบบนี้ผู้เรียนจะเรียนอยู่ที่บ้านหรือสถานที่ต่างๆ ตาความสะดวกของแต่ละคน และสามารถเรียนรู้ได้จากสื่อสิ่งพิมพ์ละสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ เช่น หนังสือ เอกสารประกอบการเรียน เทปเสียง แผ่นวีซีดี รายการวิทยุ โทรทัศน์การสอน เป็นต้น





6.จงเขียนแบบจำลองของการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล มาพอเข้าใจ
ตอบ   เดวิด เค. เบอร์โล (David K.Berlo) ได้พัฒนาทฤษฎีที่ผู้ส่งจะส่งสารอย่างไร และผู้รับจะรับ แปลคววามหมาย และมีการโต้ตอบกับสารนั้นอย่างไร ทฤษฏี S M C R ประกอบด้วย 
ผู้ส่ง (source)
ข้อมูลข่าวสาร (message)
ช่องทางในการส่ง (channel)
ผู้รับ (receiver)
ทักษะในการสื่อสาร (communication skills)
ทัศนคติ (attitudes)
ระดับความรู้ (knowledge levels)
ระบบสังคมและวัฒนธรรม (socio - culture systems) 



7.อุปสรรคของการสื่อสารมีอะไรบ้าง
ตอบ  1. คำพูด (Verbalisn)
2. ฝันกลางวัน (Day Dreaming)
3. ข้ออ้างถึงที่ขัดแย้ง (Referent Confusion)
4. การรับรู้ที่จำกัด (Limited Perception)
5. สภาพแวดล้อมทางกายภาพไม่เอื้ออำนวย (Physical Discomfort)
6. การไม่ยอมรับ (Inperception)



8.บทเรียน e-Learning เป็นส่วนใดขององค์ประกอบของการสื่อสาร
ตอบ สื่อหรือช่องทาง (Media or Channel)





9.ครูบอยกำลังสอนเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเรื่อง Grammar ด้วยวีดิทัศน์กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากข้อความดังกล่าวให้นิสิตเขียนแบบจำลองการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล
ตอบ - ผู้ส่ง (source)  คือ ครูบอย
- ข้อมูลข่าวสาร (message)  คือ วิชาภาษาอังกฤษเรื่อง แกรมม่า
- ช่องทางในการส่ง (channel) คือ การดูวีดิทัศน์ 
- ผู้รับ (receiver) คือ นักเรียน
- ทักษะในการสื่อสาร (communication skills)  คือ การที่ครูบอยสามารถสอนเนื้อหา ถ่ายทอดให้กับนักเรีย
- ทัศนคติ (attitudes) คือ เป็นทัศนคติของผู้ส่งและผู้รับซึ่งมีผลต่อการสื่อสาร ถ้าผู้ส่งและผู้รับ มีทัศนคติที่ดีต่อกันจะทำให้การสื่อสารได้ผลดี 
- ระดับความรู้ (knowledge levels) คือ ถ้าผู้ส่งและผู้รับมีระดับความรู้เท่าเทียมกันก็จะทำให้การสื่อสารนั้นลุล่วงไปด้วยดี แต่ถ้าหากความรู้ของผู้ส่งและผู้รับมีระดับที่แตกต่างกันย่อมจะต้องมีการปรับปรุงความยากง่ายของข้อมูลที่จะส่งในเรื่องความยากง่ายของภาษาและถ้อยคำสำนวนที่ใช้
- ระบบสังคมและวัฒนธรรม (socio - culture systems)  คือ ที่มีส่วนกำหนดพฤติกรรมของประชาชนในประเทศนั้น ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติ สังคมและวัฒนธรรมในแต่ละชาติย่อมมีความแตกต่างกัน 




10.การปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ณ หอประชุมธำรงบัวศรี เป็นการสื่อสารประเภทใด

ตอบ การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่ (Large group Communication)



วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เทคโนโลยีการศึกษา



                 "เทคโนโลยี"  (Technology) หมายถึง การนำแนวคิด หลักการ เทคนิค วิธีการ กระบวนการ ตลอดจนผลิตผลทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในระบบงานต่างๆ เพื่อปรับปรุงระบบงานนั้นๆ ให้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์และเอื้ออำนวยในด้านต่างๆ ดังนี้
                 1. ด้านประสิทธิภาพ (Efficiency)                
                 2. ด้านประสิทธิผล (Effectiveness)                
                 3. ประหยัด (Economy)               
                 4. ปลอดภัย (Safety)



 

ความหมายของ “เทคโนโลยีการศึกษา”

                 "เทคโนโลยีการศึกษา" หมายถึง ศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา การพัฒนา และการประยุกต์วัสดุ เครื่องมือ วิธีการ เพื่อนำมาใช้ในสถานการณ์การเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของคนให้ดียิ่งขึ้นเทคโนโลยีทางการศึกษา เป็นการขยายแนวคิดเกี่ยวกับโสตทัศนศึกษา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากโสตทัศนศึกษาหมายถึง การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ตาดูหูฟัง ดังนั้นอุปกรณ์ในสมัยก่อนมักเน้นการใช้ประสาทสัมผัส ด้านการฟังและการดูเป็นหลัก จึงใช้คำว่าโสตทัศนอุปกรณ์ เทคโนโลยีทางการศึกษา มีความหมายที่กว้างกว่า ซึ่งอาจจะพิจารณาจาก ความคิดรวบยอดของเทคโนโลยีได้เป็น 2 ประการ คือ
  1. ความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ
  2. ความคิดรวบยอดทางพฤติกรรมศาสตร์

                  วิชาเทคโนโลยีการศึกษา ศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำวิธีการ มาปรับปรุงประสิทธิภาพของการศึกษาให้สูงขึ้นเทคโนโลยีทางการศึกษาครอบคลุมองค์ประกอบ 3 ประการ คือ  วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ   




เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา

1. เพื่อให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
2. การเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง
3. การใช้วิธีเคราะห์ระบบในการศึกษา
4. พัฒนาเครื่องมือ-วัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษา


ตัวอย่างอุปรกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษา


                     คอมพิวเตอร์ (Computer) ใช้ในการนำเสนอเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ มีลักษณะเป็นการเรียนโดยตรง และเป็นการเรียน แบบมีปฏิสัมพันธ์ คือสามารถ โต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์ได้ เช่นเดียวกับการสอนระหว่างครูระหว่างนักเรียนที่อยู่ในห้องตามปกติ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีหลายประเภทตามวัตถุประสงค์ที่จะให้นักเรียนได้เรียน